GUNKUL เปิดสตอรี่เด็ด!ผนึก 2 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอาหารส่ง“จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป” เซ็น MOU “แบล็คแคนยอน - CPF”ลุยเสิร์ฟกัญชาและกัญชง ต่อยอดอาหาร เครื่องดื่ม -วิจัยพัฒนาแปรรูปสินค้าคุณภาพ
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เดินหน้าโชว์สตอรี่ร้อนแรง ส่งบริษัทย่อย “จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป” เซ็นMOU กับ “แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) เพื่อปลูก ผลิต จำหน่ายจัดส่งกัญชาและกัญชง ต่อยอดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมจับมือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส์ จำกัด ร่วมวิจัยผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงครบวงจร เตรียมพัฒนาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค ฟาก “ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย”เผยตอกย้ำความมั่นใจการปลูกกัญชง ได้มาตรฐานทุกขั้นตอน และมีคุณภาพดีเยี่ยมทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ สนับสนุนธุรกิจกัญชงกัญชาอนาคตสดใส
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัท จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท แบล็ค แคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อซื้อขายกัญชาและกัญชง สำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยบริษัทย่อยของ GUNKUL จะทำหน้าที่ปลูก ผลิต จำหน่าย จัดส่งส่วนของกัญชาและส่วนของกัญชง รวมถึงผลิต จำหน่าย จัดส่งผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชาและกัญชงให้แบล็ค แคนยอน เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดดำเนินธุรกิจการบริการด้านอาหาร และเครื่องดื่มในร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัท จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป จำกัด ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือCPF และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชงครบวงจร ทั้งในเรื่องการเพาะปลูกพืชกัญชงและการสกัดสารสำคัญ เพื่อพัฒนาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค รวมไปถึงการเริ่มต้นศึกษาและขยายผลการเพาะปลูกพืชกัญชงเมล็ดที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมโปรตีนทดแทน (Alternative Protein) และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่จะเห็นชอบร่วมกันในอนาคต
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ เชื่อว่าผู้ร่วมดำเนินงานได้มองเห็นถึงโอกาสในอุตสาหกรรมพืชกัญชงที่มีศักยภาพในการจะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทย ที่จะมีการเติบโตในความต้องการของตลาดเป็นอย่างมากโดยปัจจัยที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมของพืชกัญชงคือ แหล่งวัตถุดิบพืชกัญชงและสารสกัดที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจากรูปแบบการปลูกของบริษัทฯ ที่เป็นระบบโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน เป็นพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทฯ เอง และปลูกโดยใช้ระบบ Hydroponic ไม่ใช้ดิน แต่ใช้น้ำ RO ในการปลูก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสารพิษตกค้างต่างๆ และไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงใดๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลผลิตกัญชงที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จึงได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า
“จากกระแสความนิยมกัญชงทำให้มีการนำสารสกัดจากกัญชงไปเป็นวัตถุดิบและสารตั้งต้น เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง อาหาร ยา เครื่องดื่ม ซึ่งส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ ได้รับความสนใจเข้ามาขอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมพัฒนาวิจัยในธุรกิจกัญชง จากความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญที่จะปักธงขยายตลาดตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้อย่างสมบูรณ์ นับตั้งแต่การจัดหาเมล็ดพันธุ์กัญชง – การเพาะปลูก – รับซื้อกัญชง – การสกัด และผลิตผลิตภัณฑ์สู่ตลาด และเชื่อว่าจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทได้”ดร.สมบูรณ์กล่าวในที่สุด